วิธี Coffee Cupping แบบมืออาชีพ

การชิมกาแฟที่บ้านนั้นทำได้ง่ายด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสม
ก่อนเริ่ม ควรเลือกชามที่จุน้ำได้ 200-260 มล. เครื่องชั่ง เครื่องบดกาแฟ ช้อน และตัวจับเวลา
จากนั้นให้เลือกเมล็ดกาแฟจากภูมิภาค และเมล็ดคั่วต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบ
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้ทำตามคำแนะนำทีละขั้นตอนด้านล่าง
เพื่อเรียนรู้วิธีชิมกาแฟแบบมืออาชีพได้เลย

ขั้นตอนที่ 1          ตวงกาแฟ

ตวงกาแฟของคุณ อัตราส่วนที่แนะนำคือ 8.25 กรัมต่อน้ำ 125 มล.
ดังนั้น หากชามของคุณจุได้ 200 มล. ให้ใช้กาแฟ 11 กรัม
เติมกาแฟคั่วแต่ละชนิดเพิ่มอีก 2 กรัมเพื่อฆ่าเชื้อเครื่องบดในขั้นตอนที่ 2

ขั้นตอนที่ 2        บดกาแฟ

บดกาแฟ 2 กรัมแรกเพื่อเตรียมเครื่องบด
จากนั้นบดกาแฟ 11 กรัมที่เหลือแล้วเทลงในชามชิมที่กำหนดไว้
ทำตามขั้นตอนนี้สำหรับการคั่วแต่ละครั้ง โดยเริ่มจาก 2 กรัมก่อน
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีกาแฟชนิดอื่นมาขัดขวางรสชาติ
บดเมล็ดกาแฟให้หยาบจนดูเหมือนเกลือทะเล

ขั้นตอนที่ 3        ดมกลิ่นเมล็ดกาแฟ

ให้คุณเคาะชามกาแฟบนโต๊ะอย่างแรงเพื่อให้กลิ่นกระจายออกมา
จากนั้นจึงค่อยสูดดมกลิ่นนั้น เริ่มจดบันทึกประสบการณ์เริ่มต้นของคุณกับการคั่วแต่ละครั้ง
ดูว่าคุณสามารถรับรู้ลักษณะเฉพาะใดบ้างขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดของกาแฟ
กาแฟจากประเทศในแอฟริกาจะมีกลิ่นผลไม้และดอกไม้
ในขณะที่กาแฟจากอเมริกาใต้จะมีกลิ่นครีมและช็อกโกแลตมากกว่า

ขั้นตอนที่ 4        กำหนดเวลา

ตั้งเวลาเป็น 4 นาทีแล้วเติมน้ำ อุณหภูมิของน้ำควรอยู่ระหว่าง 94-95 องศาเซลเซียส
ดังนั้นควรปิดน้ำให้เดือดก่อน โดยปกติแล้วควรกรองน้ำด้วย ยิ่งบริสุทธิ์เท่าไรก็ยิ่งดี
คุณภาพของน้ำและสารเคมีภายในอาจส่งผลต่อรสชาติของกาแฟได้

ขั้นตอนที่ 5        แตกฟองโฟมออก

เมื่อหมดเวลา ก็ถึงเวลา "ทำลายฟองโฟมบนผิวกาแฟ"
โดยหยิบช้อนเล็กๆ สองอันขึ้นมาแล้วเอียงช้อนแรกออกจากตัว
เพื่อทำลายฟองอากาศบนกาแฟ และปล่อยกลิ่นหอมออกมา
คนชามเบาๆ เพื่อให้กากกาแฟบางส่วนจมลงไปที่ก้นถ้วย
ควรตักกากกาแฟที่ลอยอยู่ทิ้งไป

ขั้นตอนที่ 6        ซู๊ดดดดดด

เคล็ดลับในการชิมกาแฟอย่างถูกต้องคือการซดกาแฟ
ยิ่งเสียงดังก็ยิ่งดี! ตักกาแฟที่ชงแล้วใส่ช้อนอีกอันแล้วยกขึ้นดื่ม
ซู๊ดดดดแรงๆ เพื่อให้กาแฟเคลือบเพดานปากและลิ้น ฉีดกาแฟเข้าปาก
วิธีนี้อาจฟังดูเข้มข้น แต่สำคัญมาก
การซดกาแฟแบบนี้จะช่วยกระตุ้นประสาทรับกลิ่นและรสชาติ
ทำให้สามารถรับรู้และรับรู้รสชาติของเมล็ดกาแฟได้อย่างเต็มที่

ขั้นตอนที่ 7        สังเกต และวิเคราะห์

แกล้งทำเป็นเคี้ยวกาแฟ เพราะจะทำให้คุณมีเวลาสังเกตกลิ่นต่างๆ ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ คุณยังปล่อยให้กาแฟเย็นลงสักสองสามนาทีแล้วชิมอีกครั้งก็ได้
เมื่อกาแฟเย็นลง ความเป็นกรดจะออกมามากขึ้น ซึ่งทำให้รสชาติเปลี่ยนไป
กลืนหรือคายกาแฟออกมา การชิมกาแฟแบบมืออาชีพ
การคายกาแฟออกมาเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากเราต้องชิมกาแฟหลายร้อยแก้ว
อย่าลืมทำความสะอาดช้อนระหว่างการชิมกาแฟแต่ละแก้วด้วย

ขั้นตอนที่ 8        จดบันทึก

ให้คะแนนกาแฟที่ชงในแต่ละแก้วขณะที่ชิม
สังเกตเนื้อสัมผัสและความเป็นกรด สังเกตรสชาติและรสที่ค้างอยู่ในคอ
คุณสามารถรับรสช็อกโกแลตหรือผลไม้ได้หรือไม่
รสอ่อนหรือรสเข้ม ความเป็นกรดอ่อนหรือรสจัด
เมื่อกาแฟเย็นลง ให้พิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงของเนื้อกาแฟและรสชาติที่เปลี่ยนไป
รสเข้มข้นหรือข้น รสชาติที่คงอยู่ยาวนานหรือชัดเจน
ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดที่นี่ มีเพียงความคิดเห็นเท่านั้น
จดทุกอย่างลงไปโดยใช้แผนภูมิการชิมกาแฟ

และนี่คือ 8 ขั้นตอนที่มืออาชีพเค้าใช้กันนะครับ
หากคุณอยากชิมกาแฟแบบโปร อยากเรียนรู้และเข้าใจกาแฟในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ลองไปหาคาเฟ่ที่จัดกิจกรรมชิมกาแฟดูสิ
รับรองว่าคุณจะได้ค้นพบโลกใหม่ของกาแฟอย่างแน่นอน!

แต่หากคุณยังไม่รู้ว่าจะไปเรียนรู้การทำ Coffee Cupping ที่ไหนดี
เรามีข่าวดีจะมาบอกทุกท่านว่า.. ที่โรงคั่วกาแฟณิธานของเรา
กำลังจะมีการจัด Coffee Cupping โดย Brew Master มืออาชีพที่มีรางวัลการันตีมากมาย
ในวันที่ 16 กันยายนนี้ที่โรงคั่วกาแฟณิธาน ฟรี!!!

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องการ Cupping กาแฟ
และอยาก Cupping ได้อย่างที่บาริสต้ามืออาชีพเค้าทำกัน

รีบลงทะเบียน เพื่อเข้าเรียน “ฟรี” กับเราได้
โดยกด “ลงทะเบียน” ที่นี่
ด่วน! รับจำนวนจำกัด

แหล่งที่มา

The Coffee Roaster's Companion by Scott Rao
A Global History by Jonathan Morris
Specialty Coffee Association (SCA)
Coffee Quality Institute (CQI)
Roast Magazine