ไขความลับสู่กาแฟรสเยี่ยม ที่คุณชงดื่มเองที่บ้านได้

Home brewing
เคยสงสัยมั้ยครับว่าทำไมกาแฟที่ชงเองที่บ้านถึงไม่อร่อยเท่ากับกาแฟแก้วโปรดที่นั่งดื่มที่ร้าน? บางทีอาจจะขมเกินไป หรือขาดความหอมละมุน ไม่เหมือนตอนไปนั่งจิบที่ร้านเลย

หลายคนมักเจอปัญหาในการชงกาแฟให้ได้รสชาติที่ถูกใจ เพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ไม่ว่าจะเป็นวิธีการชง อุณหภูมิของน้ำ หรือขนาดของการบดกาแฟ ล้วนมีผลต่อรสชาติในแก้วของคุณทั้งสิ้น

ไขความลับ สู่กาแฟรสเยี่ยม

ถ้าเราบอกคุณว่าการชงกาแฟรสเลิศที่บ้านไม่ยากอย่างที่คิดเลยล่ะ? เพียงแค่คุณมีข้อมูลที่ถูกต้องและอุปกรณ์ที่เหมาะสม ก็สามารถสร้างสรรค์กาแฟรสเยี่ยมได้ง่ายๆ ที่บ้านแล้วครับ ตั้งแต่การเลือกเมล็ดกาแฟคั่วสดใหม่ การบดกาแฟให้ได้ขนาดที่เหมาะสม ไปจนถึงการควบคุมอุณหภูมิของน้ำ การปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเหล่านี้ จะสร้างความแตกต่างให้กับกาแฟของคุณอย่างน่าประหลาดใจ

ให้คุณลองนึกภาพดูนะครับว่า การชงกาแฟก็เหมือนกับการทำอาหารจานอร่อยสักจานนึง ที่ทุกขั้นตอนล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่ดี การปรุงรส และการจัดเสิร์ฟ เพราะฉะนั้นเราจะพาคุณไปดูกันว่าหากอยากได้กาแฟดีๆ สักแก้วโดยชงดื่มเองที่น้านนั้นต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง?

 

fresh bean


• เลือกเมล็ดกาแฟคั่วสดใหม่

ไม่ว่าคุณจะชอบระดับการคั่วแบบไหนก็ตาม นอกจากระดับของการคั่วเมล็ดแล้ว เราต้องเลือกเมล็ดกาแฟที่คั่วสดใหม่เท่านั้น เพราะคุณจะได้รสชาติของกาแฟก็จะหอมกรุ่น มีความเป็นเอกลักษณ์ และเต็มไปด้วยความซับซ้อนของกลิ่น และรสชาติในมิติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรสผลไม้ ช็อกโกแลต หรือถั่ว ฯลฯ

• บดกาแฟให้ได้ขนาดที่เหมาะสม

หลายๆ คนตกม้าตายกับการบดกาแฟที่ไม่เหมาะกับกาแฟที่จะดื่ม ดังนั้นการบดเมล็ดกาแฟให้ได้ขนาดจึงมีความสำคัญมาก และเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการบดก็สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งนี้ต้องตอบให้ได้ก่อนว่าเราจะดื่มกาแฟแบบไหน?

ถ้าคุณดื่มแบบกาแฟที่ต้องแช่ในน้ำ เช่นการทำ Cold brew หรือ French Press คุณก็ควร “บดหยาบ”

แต่ถ้าคุณดื่มกาแฟที่ต้องผ่านการกรอง หรือ Pour Over เช่น กาแฟดริป หรือแบบไซฟ่อน คุณก็ต้อง “บดปานกลาง” จึงจะเหมาะ

แต่ถ้าคุณบดละเอียดก้จะเหมาะกับการชงแบบ “Moka pot” และถ้าคุณต้องการกาแฟ Espresso นั่นก็หมายความว่าคุณต้องบดแบบ “ละเอียด” เพื่อให้น้ำ, กาแฟ, และอุณหภูมิกับแรงดันน้ำมันได้สัดส่วนที่เหมาะสม ก็จะทำให้คุณได้ Espresso Shot ที่ดีได้ ดังนั้นการบดกาแฟให้ได้ขนาดที่เหมาะสมจึงสำคัญมากอย่างที่ผมได้กล่าวมา

• ควบคุมอุณหภูมิ และแรงดันของน้ำ

อุณหภูมิของน้ำก็มีผลต่อรสชาติของกาแฟเช่นกัน ถ้าใช้น้ำร้อนเกินไป จะทำให้กาแฟขมและมีรสไหม้ ถ้าใช้น้ำร้อนน้อยเกินไป กาแฟจะจืดชืด การควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้เหมาะสมจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ซึ่งสรุปให้เข้าใจง่ายๆ แบบนี้ดีกว่าว่า ควรใช้อุณหภูมิที่อยู่ระหว่าง 91-96 องศาเซลเซียส นั่นเอง

 

เราจะรู้ได้อย่างไร? ว่าเราได้กาแฟรสชาติเยี่ยมหรือยัง

ที่ NITAN Coffee Roastery เราได้รวบรวมขั้นตอนการชงกาแฟแบบละเอียด เพื่อให้คุณสามารถชงกาแฟรสชาติเยี่ยมเทียบเท่าร้านกาแฟได้เองที่บ้าน ไม่ว่าคุณจะชอบการชงแบบ Pour-over, French Press หรือ Espresso เรามีทั้งเมล็ดกาแฟที่คั่วสดใหม่หลากหลายโปรไฟล์ให้คุณได้เลือกชิม เลือกเทสต์ และเลือกช๊อปได้ตามใจ

 

NITAN Coffee machine

 

รวมถึงอุปกรณ์ที่จะช่วยให้การชงกาแฟในแบบฉบับของคุณนั้นง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือมือเก๋าแล้วก็ตาม ชุดอุปกรณ์ชงกาแฟของเราไม่ว่าจะเป็นมือบดรุ่นต่างๆ หรือแม้กระทั่งเครื่องชงกาแฟที่ให้อุณภูมิ และแรงดันที่เหมาะสม ทั้งหมดนี้ได้ถูกปรับจูนมาให้เข้ากับเมล็ดกาแฟของเราเป็นอย่างดี

แต่หากคุณอยากง่ายกว่านั้น เราแนะนำให้ใช้เครื่องชงกาแฟรุ่น 4 in 1 ของเราโดยซื้อพร้อมกับเมล็ดกาแฟของเราไปเลย

 

รับรองเลยว่าการดื่มกาแฟในวันทำงานของคุณจะง่ายขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งคุณสามารถติดต่อสอบถามได้จากเจ้าหน้าที่ของเราที่หน้าร้าน รวมถึง Add line มาที่ @nitanpattaya หรือเข้าไปชมสินค้าได้ที่ https://www.nitanpattaya.com

 

แล้วเช้าวันใหม่ของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!

 

อย่าลืม! สั่งจองวันนี้ทันที... ช้าหมด! อดด้วยยยยยน๊า

Share the Post:

Related Posts

Caffeined

คาเฟอีน..ต้องเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่ามากเกินไป?

คาเฟอีนเป็นส่วนประกอบสำคัญของกาแฟที่หลายคนหลงรัก มันช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัวและเพิ่มพลังงาน แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าควรดื่มกาแฟมากเท่าไหร่ถึงจะปลอดภัย? แล้วมีผลกระทบอะไรบ้างถ้าเราดื่มเกินไป?

Read More
Coffee DECAF

กาแฟดีแคฟคืออะไร และใครที่ชอบดื่มเจ้าสิ่งนี้?

สำหรับบางคน การดื่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน หรือที่เรียกว่า กาแฟดีแคฟ เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบในการรับรสชาติของกาแฟโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของคาเฟอีน

Read More